รหัสสินค้า | 008 |
หมวดหมู่ | พระเครื่อง พระคล้องคอ พระพุทธปูชา |
ราคา | 900.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 3 เม.ย. 2559 |
อัพเดทล่าสุด | 3 เม.ย. 2559 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | 1 |
หลวงพ่อเฒ่า (ปั้น) เนื้อแดง วัดธรรมิกาวาส (คังคาว) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท สร้างโดยเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ประมาณปี ๒๕๔๙
หลวงพ่อเฒ่าปั้น บรมครูสายวิชาสุดยอดแห่งภาคกลาง
หนึ่งเดี่ยวในแผ่นดิน ด้วยพระคาถา "อะปะจะคะ" ที่ยิ่งใหญ่
เป็นตำนานจากอดีตถึงปัจจุปัน เป็นที่มาของเหรียญครูบาอาจารย์
หลายๆองค์ที่โด่งดังและเป็นอมตะ ได้เอามาประทับไว้ด้านหลัง
ครูบาอาจารย์ หลายๆองค์ได้นำพระยันต์อะปะจะคะมาใช้คุ้มครองลูกหลาน
และได้ผลสุดยอดทุกครั้งไป สืบจนกระทั้งปัจจุปัน ที่หลวงปู่เชิญ อาศรมเทพนภา
กำลังจะจัดทำตะกรุดค่ายกลอะปะจะคะ เพื่อสืบสานสายพระยันต์ที่ยิ่งใหญ่
ขอกราบหลวงพ่อเฒ่าปั้นแห่งวัดคังค้าว ด้วยความเคารพและศรัทธายิ่ง
พ่อเฒ่าปั้น เป็นพระภิกษุ ที่คนพื้นที่ให้ความเคารพและเกรงกลัวท่านเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากท่านเป็นพระที่มีอาคมขลัง เป็นพระที่มากด้วยบารมี ท่านเป็นบูรพาจารย์ของหลวงพ่อหลวงปู่ในยุคปัจจุบันนี้มากมาย แต่ไม่เป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะท่านต้องการเช่นนั้น แต่มิได้หมายความว่าความขลังหรือความศักดิ์สิทธิ์ของท่านจะหายไปกับกาลเวลา ในทางตรงข้ามยิ่งนานวัน ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านกลับเปี่ยมล้นมากมาย เปรียบประดุจ ถึงเวลาที่ท่านจะมาเปิดบารมีให้กับลูกหลานในสายพระญาณแห่งท่านและลูกหลานที่ สืบเชื้อสายมาทุกชาติภพ ดังนั้นในวันนี้ เราจะได้ยินชื่อเสียงและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านมากขึ้น เป็นลำดับ แม้กระทั้งหนังสือที่เกี่ยวกับประวัติของพระเกจิ ก็ยังนำเรื่องของวัดคังค้าวมาเผยแพร่ หลังจากที่ ศิษย์อริยะได้เล่าเรื่องราวของหลวงพ่อเฒ่าปั้นผ่านเว็บนี้มาอย่างต่อเนื่อง เปรียบเหมือนดังการจุดไฟแห่งความศรัทธาให้บังเกิดขึ้นในเร็ววัน
อดีตเล่ากันว่าเมื่อสักห้าปีที่ผ่านมา มีคนไปเดินสนามพระ ไปเจอเหรียญพ่อเฒ่าปั้น คนนั้นยังไม่รู้จัก แต่รับมาด้วย หลังจากนั้น มีกลุ่มผู้นิยมพระแต่ไม่นิยมบูชา นิยมลองของกัน ได้จัดเตรียมยิงปืนใส่พระ โดยมีกลุ่มเดียวกันมารวมกัน และเอาทั้งพระทั้งตระกรุดทั้งเครื่องรางของขลังของครูบาอาจารย์ที่ว่าแน่ๆแห่งยุค มายิงปืนใส่ ผลปรากฏตามความคาดหมาย เหรียญพระเครื่องรางของขลัง กระจุยกระจายไม่มีชิ้นดี โดยเฉพาะพระเกจิที่ไม่ถึงขั้น แต่โด่งดังขึ้นมาด้วยแรงเชียร์ แต่แทบไม่น่าเชื่อ มีอยู่เหรียญหนึ่งที่ยิงเท่าไรก็ไม่ออก เหรียญนั้นคือเหรียญที่ชายคนนั้นได้มาจากสนามพระ เพราะพ่อค้าพระแถมมาด้วยนั้นเอง เขาจึงต้องถามหาว่าเหรียญใคร ท่านอยู่ไหน มีโพสถามในเว็บพระเครื่องยอดฮิตต่างๆ ไม่มีใครรู้จัก จนเด็กชัยนาทซึ่งน่าจะเป็นศิษย์หลวงพ่อกวย เข้าไปพบเข้าจึงตอบว่า เป็นเหรียญหลวงพ่อเฒ่าปั้นแห่งวัดคังคาว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คนที่ทราบข่าวก็ตามเก็บกันทุกสนาม อย่างมั่นใจ เพราะไม่มีปลอม
ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านอีกประการหนึ่งคือเหรียญหรือพระของท่านไม่มีใครกล้าปลอม เพราะมีเรื่องเล่ากันว่า แต่เดิมมีคนแถวๆภาคกลางไปปลอมเหรียญท่าน แล้วตายอย่างน่าเกลียดที่สุด จากนั้นก็มีอีก คนทำก็ตายอีก เหรียญท่านเลยยังไม่มีปลอม แต่ในวันนี้ ไม่แน่เหมือนกัน และคาดว่าผู้ทำคงประสบชะตากรรมไปแล้ว ไม่ใช่ท่านทำให้ตาย แต่อาจเป็นเพราะกรรมของผู้นั้นที่ไปเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรดาบริวารของท่านเลยเล่นงานเอา
ประวัติหลวงพ่อเฒ่าปั้น วัดคังคาว ซึ่งถ่ายทอดมาจากพระอาจารย์จิ๊ วัดคังคาว ว่าคนเก่าๆเล่าสืบทอดกันมาว่าท่านเป็นชาวบางปลาสร้อย จ.ชลบุรี เกิดในสมัยอยุธยา เคยเป็นทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายหลังสงครามได้บวชเรียนที่จ.อยุธยาแล้วเดินรุกขมูลไปเรื่อยๆกับสหธรรมิก อีกหนึ่งรูปชื่อหลวงพ่อแป้นรูปร่างขาวสูง ส่วนตัวหลวงพ่อปั้นนั้นรูปร่างล่ำแบบมะขามข้อเดียวผิวคล้ำ โดยร่วมกันบูรณะวัดวาอารามไปทั่ว และเมื่อตอนที่ท่านมาถึงบริเวนแม่น้ำน้อยที่สร้างวัด ก็ได้อธิษฐานด้วยการโยนผ้าอาบไปกระทั่งผ้าอาบปลิวตามลมมาตกในบริเวนดังกล่าว ซึ่งเป็นวัดร้างมาก่อน หลวงพ่อเฒ่าปั้นจึงเริ่มรวบรวมศรัทธาก่อสร้างวัดคังคาวขึ้น ส่วนหลวงพ่อแป้นก็ล่องเรือต่อไปทางทิศเหนือแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
ตอนที่พ่อเฒ่าปั้นท่านล่องเรือมา ท่านมีลิงตัวผู้มาด้วย๑ตัวชื่อ เจ้าหอย ต่อมาคงได้แพร่พันธุ์กับลิงป่าแถววัดจนกลายเป็นฝูงลิงของหลวงพ่อเฒ่าที่ไม่ มีใครกล้าทำอันตรายจวบจนกระทั่งปัจจุบัน หลวงพ่อสวัสดิ์อดีตเจ้าอาวาสท่านก็รักลิงเหล่านี้มาก และเมื่อไม่นานมานี้เจ้าลิงก็ทำแสบแอบขโมยใบลานเทศน์ที่มีลายมือชื่อหลวงพ่อ เฒ่าปั้นไปเล่นฉีกขาดหลุดหายไป ทำให้ขาดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไปอีกชิ้น
นอกจากพ่อเฒ่าปั้นจะเลี้ยงลิงแล้วท่านยังมีช้างอีกสามเชือกช้าง ๓ เชือกนี้ ชื่อ บุตร ทรัพย์ และ กระสอบ เป็นช้างแสนรู้ มีความกตัญญูสูง นอกจากจะช่วยชักลากไม้และเป็นพาหนะในการเดินทางให้หลวงพ่อเฒ่าแล้ว ทั้งสามยังได้ช่วยกันไปหาฟืนนำมาให้หลวงพ่อเฒ่าและพระในวัดใช้ โดยมิต้องสั่งหรือบังคับแต่อย่างใด โดยภายหลังได้มอบให้ลูกศิษย์เอกคือหลวงพ่อสงฆ์ วัดสว่างอารมณ์ ไปหนึ่งเชือกคือ พังกระสอบ หลวงพ่อสงฆ์นี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐ หลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐนี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เชิญ
ท่านพระอาจารย์จิ๊ยืนยันว่า แต่ก่อนท่านเคยเห็นที่วัดมีตำราคาถาอาคมของหลวงพ่อเฒ่าที่คัดโดยหลวงพ่อสงฆ์ แล้วเขียนระบุไว้เลยว่าหลวงพ่อสงฆ์ท่านเป็นคนคัดแต่ปัจจุบันหายไปบ้างลาง เลือนไปบ้าง
"คัดมาจากศิษย์อริยะ"
ประวัติหลวงพ่อเฒ่าปั้น วัดคังคาว ซึ่งถ่ายทอดมาจากพระอาจารย์จิ๊ วัดคังคาว ว่าคนเก่าๆเล่าสืบทอดกันมาว่าท่านเป็นชาวบางปลาสร้อย จ.ชลบุรี เกิดในสมัยอยุธยา เคยเป็นทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายหลังสงครามได้บวชเรียนที่จ.อยุธยาแล้วเดินรุกขมูลไปเรื่อยๆกับสหธรรมิก อีกหนึ่งรูปชื่อหลวงพ่อแป้นรูปร่างขาวสูง ส่วนตัวหลวงพ่อปั้นนั้นรูปร่างล่ำแบบมะขามข้อเดียวผิวคล้ำ โดยร่วมกันบูรณะวัดวาอารามไปทั่ว และเมื่อตอนที่ท่านมาถึงบริเวนแม่น้ำน้อยที่สร้างวัด ก็ได้อธิษฐานด้วยการโยนผ้าอาบไปกระทั่งผ้าอาบปลิวตามลมมาตกในบริเวนดังกล่าว ซึ่งเป็นวัดร้างมาก่อน หลวงพ่อเฒ่าปั้นจึงเริ่มรวบรวมศรัทธาก่อสร้างวัดคังคาวขึ้น ส่วนหลวงพ่อแป้นก็ล่องเรือต่อไปทางทิศเหนือแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
ตอนที่พ่อเฒ่าปั้นท่านล่องเรือมา ท่านมีลิงตัวผู้มาด้วย๑ตัวชื่อ เจ้าหอย ต่อมาคงได้แพร่พันธุ์กับลิงป่าแถววัดจนกลายเป็นฝูงลิงของหลวงพ่อเฒ่าที่ไม่ มีใครกล้าทำอันตรายจวบจนกระทั่งปัจจุบัน หลวงพ่อสวัสดิ์อดีตเจ้าอาวาสท่านก็รักลิงเหล่านี้มาก และเมื่อไม่นานมานี้เจ้าลิงก็ทำแสบแอบขโมยใบลานเทศน์ที่มีลายมือชื่อหลวงพ่อ เฒ่าปั้นไปเล่นฉีกขาดหลุดหายไป ทำให้ขาดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไปอีกชิ้น
นอกจากพ่อเฒ่าปั้นจะเลี้ยงลิงแล้วท่านยังมีช้างอีกสามเชือกช้าง ๓ เชือกนี้ ชื่อ บุตร ทรัพย์ และ กระสอบ เป็นช้างแสนรู้ มีความกตัญญูสูง นอกจากจะช่วยชักลากไม้และเป็นพาหนะในการเดินทางให้หลวงพ่อเฒ่าแล้ว ทั้งสามยังได้ช่วยกันไปหาฟืนนำมาให้หลวงพ่อเฒ่าและพระในวัดใช้ โดยมิต้องสั่งหรือบังคับแต่อย่างใด โดยภายหลังได้มอบให้ลูกศิษย์เอกคือหลวงพ่อสงฆ์ วัดสว่างอารมณ์ ไปหนึ่งเชือกคือ พังกระสอบ หลวงพ่อสงฆ์นี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐ หลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐนี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เชิญ
ท่านพระอาจารย์จิ๊ยืนยันว่า แต่ก่อนท่านเคยเห็นที่วัดมีตำราคาถาอาคมของหลวงพ่อเฒ่าที่คัดโดยหลวงพ่อสงฆ์ แล้วเขียนระบุไว้เลยว่าหลวงพ่อสงฆ์ท่านเป็นคนคัดแต่ปัจจุบันหายไปบ้างลาง เลือนไปบ้าง
"คัดมาจากศิษย์อริยะ"
ประวัติของพ่อเฒ่าปั้น หายากมาก ไม่สามารถที่จะจับจุดตรงไหนมาได้เลย กล่าวได้ว่า หาได้ยากกว่าปรมาจารย์ที่มีคุณประวัติยิ่งใหญ่แห่งแดนทักษิณ คือหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ แต่ผมพยายามที่จะเรียบเรียงเรื่องราวของท่านออกมาจากความรู้สึกให้จงได้ เพราะเมื่อคืน ผมฝันว่า ผมไปกราบหลวงพ่อเฒ่า และถวายพานครูเพื่อขอเป็นศิษย์ ปรากฏว่าท่านให้ความเมตตาเป็นอย่างสูง ได้เล่าเรื่องต่างๆให้ผมฟัง ผมจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่สุดท้ายคือจำไม่ได้ จนกระทั้งผมสะดุ้งตื่นเอาตอนตีสองกว่า มีหลักฐานยืนยันที่เว็บพลังจิต ผมไปโพสไว้ประมาณตีสองกว่าๆ ในขณะที่ผมนอนตั้งแต่เวลาห้าทุ่ม จากนั้นก็นอนต่อ ตื่นขึ้นมาสดชื่นและแจ่มใส่มาก จึงตัดสินใจมาเล่าเรื่องหลวงพ่อเฒ่าปั้นในแง่มุมที่ชวนให้คิด เพื่อจะได้จบกระแสความและเข้าสู่เรื่องราว
พ่อเฒ่าปั้น ท่านเกิดในสมัยกรุงศีอยุธยา เป็นนักรบในกองทัพที่เคียงค้าง สมเด็จพระเจ้าตากสิน เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชตัดสินใจที่จะแหวกวงล้อมทหารพม่าที่ล้อมกรุงศรีอยุธยา เพื่อไปตั้งหลักและเตรียมทัพที่จะกู้ชาติ
พ่อเฒ่าปั้นเป็นหนึ่งในจำนวนทหารสองร้อยกว่าคนที่ร่วมแหวกวงล้อม โดยพ่อเฒ่าปั้นเป็นนักรบที่มีความเชี่ยมชาญในด้านการรบและการไสยเวทย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านได้เรียนวิชาคาถาอาคมมาจากสำนักใดสำนักหนึ่งในอยุธยา จนมีความเชี่ยวชาญ ทั้งการรบและการวางแผน อีกทั้งพระเวทย์ที่เข้มขลัง เมื่อท่านมาร่วมทัพกับสมเด็จพระเจ้าตากสินท่านจึงเป็นคล้ายๆกับฝ่ายวางแผนพิชัยสงคราม และไสยเวท์ทั้งปวง จนกระทั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสามารถกู้ชาติได้สำเร็จ ท่านก็ได้ติดตามมามาอยู่กับสมเด็จพระเจ้าตากสินอีกพักหนึ่ง หลังจากนั้นเมื่อมีการก่อกบฏ ในท้ายรัชสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านก็ต้องหนี เพราะท่านคือบุคคลสำคัญที่ยืนหยัดเคียงค้างพระเจ้าตากสินมาตลอด ท่านก็มาอุปสมบมเป็นพระภิกษุกับเพื่อนอีกรายหนึ่งที่มาด้วยกัน ถามว่าทำไมต้องหนีมา เพราะหนึ่ง ไม่ต้องการที่จะเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย สองท่านเริ่มจะเบื่อหน่ายในสมบัติลาภยศสรรญเสริญ สามราชภัยอาจจะมาถึงตัว เพราะทุกคนรู้ว่าท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่ทรงวิทยาคมและมีฝีมือในการวางยุทธศาตร์ที่สำคัญของพระเจ้าตากสิน ดังนั้นการออกเดินบนเส้นทางของผู้ที่แสวงหาสัจจธรรมจึงสมบูรณ์ที่สุด และได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับเหล่าทหารสายเลือดไทยด้วยกันที่ต้องเสียชีวิต(จากการอยากเป็นใหญ่ของเจ้าเมือง ผู้ครองนคร ผู้ไม่ถึงบุญและบารมีของตัวเอง ตั้งตัวเป็นใหญ่กันมากมายตอนอยุธยาเสียเมือง)รวมถึงทหารพม่า ที่ต้องสูญเสียชีวิต
พ่อเฒ่าปั้นจึงออกบวชและศึกษาพระคัมภีร์จนจบกระบวนความ จากนั้นท่านก็เดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ คำไหนนอนนั้นจนกระทั้งมาถึงลำน้ำแม่น้ำน้อย
จนกระทั้งเป็นตำนานของหลวงพ่อเฒ่าปั้น แห่งวัดคังค้าว ที่ลือลั่นมาจนถึงปัจจุปัน
เมื่อท่านเดินทางมาถึงแม่น้ำน้อย เล่ากันว่า หลวงพ่อเฒ่าปั้น ได้คิดที่จะสร้างวัดจึงได้
อธิษฐานด้วยการโยนผ้าอาบไปกระทั่งผ้าอาบปลิวตามลมมาตกในบริเวนดังกล่าว ซึ่งเป็นวัดร้างมาก่อน
เมื่อเป็นเช่นนั้น พระภิกษุทั้งสองรูปก็จะข้ามผั่งไปฝั่งตรงข้าม
เพราะฝั่งตรงข้ามเป็นวัดร้างที่ผ้าอาบน้ำปลิวไปถึง
แต่บังเอิญมีแม่น้ำขวางกันจะทำยังไงดี
พระภิกษุรูปที่มาด้วย องค์สูงผิวสีขาว ไม่รอช้า
นั่งลงบนผิวน้ำแล้วเอามือพายน้ำไป ประหนึ่งนั่งพายเรือข้ามฝาก
พระภิกษุองค์ดำร่างล่ำกว่าที่มาด้วยกัน คือพ่อเฒ่าปั้น ท่านก็พูดว่า
แบบนั้นฉันก็ไปได้ ว่าแล้วท่านก็นั่งบนผิวน้ำและใช้มือเป็นพายกวักน้ำไปจนถึงวัดร้างที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง
เรื่องนี้คนเฒ่าคนแก่หลายคนได้ยินตกทอดกันมา บ้างก็ว่านั่งบนใบไม้ บ้างก็ว่านั่งบนอุปกรณ์อย่างอื่นที่ไม่ใช่เรือ
แต่สรุปได้ตรงกันว่า การเดินทางข้ามแม่น้ำน้อยของพระภิกษุทั้งสองรูปเป็นไปโดยปาฎิหารย์
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการในตอนนี้มีหลายคน ก็เลยเล่าลือกันปากต่อปาก และต่างแตกตื่นมากราบพระภิกษุทั้งสอง
และมาช่วยกันปรับปรุงและบูรณะวัดร้างดังกล่าว
ตำนานอีกหนึ่งตำนานของหลวงพ่อเฒ่าปั้น เมื่อตอนสิ้นรัชสมัยสมเด็จพระเต้าตากสินมหาราช
ท่านได้ออกบวช และได้เดินธุดงค์ไปหลายแห่ง และได้ไปร่วมบูรณะวัดต่างๆ เพื่อเป็นการชดใช้ที่มีส่วนในสงครามที่ไม่ได้ก่อ แต่ต้องมีกรรมไปพัวพันในฐานะนักรบ แห่งกองทัพพระเจ้าตากสินมหาราช หนึ่งในนั้นที่มีหลักฐานบันทึกไว้คือที่วัดบางนมโค ก่อนที่หลวงปู่ปานท่านจะมาอยู่และสร้างความเจริญให้กับวัดบางนมโคเป็นอย่างยิ่ง
ตำนานนี้แสดงให้เห็นถึงสายพุทธาคมของหลวงพ่อเฒ่าว่า ท่านสืบสายพุทธาคม มาจากกรุงเก่า แต่จะเป็นสำนักใด ต้องฝาก ศิษย์อริยะ แสวงหาหลักฐานและข้อเท็จจริงต่อไป เพราะสำนักพุทธาคมในกรุงเก่าในสมัยนั้นมีไม่กี่แห่ง จะได้สืบต่อกันไปอีกทอดหนึ่ง
แต่สำหรับสุดยอดแห่งพระคาถา อะปะจะคะ ไม่เคยมีที่ใดมาก่อนนอกจาก สำนักคังคาว โดยหลวงพ่อเฒ่าปั้น เข้าใจว่าท่านคงได้มาจากนิมิตร หรือท่านคงได้รับมาจากในสมาธิ และมาใช้เป็นอักขระประจำสำนัก แต่เรื่องนี้ต้องขอตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
มาดูเรื่องราวอิทธิปาฏิหารย์และการมรณภาพของหลวงพ่อเฒ่า
จากศิษย์อริยะ รวมรวบไว้มาถึงคาถาประจำสำนักอะปะจะคะมาจากไหนผมว่าเรื่องนี้อย่าคิดมาครับอาจจะมา หัวใจพระกรณีย์หรืออาจมาจากอย่างอื่นแต่ที่แน่ๆคือขลังมากใช้ได้ทุกประการโดยเฉพาะเมื่อเอามาร้อยเรียงกันอะปะจะคะ ปะจะคะอะ จะคะอะปะ คะอะปะจะเป็นหนึ่งคาบท่องให้ได้สักสามคาบหรือเก้าคาบไปได้ทั่วทั้งเมตตา โชคลาภ ป้องกันคาถาบางอย่างเราไม่จำเป็นต้องรู้คำแปลท่านอาจารย์สมชาย แห่งวัดบางพระเคยบอกผมว่าคาถานะอย่าไปรู้คำแปล เพราะท่านเรียนบาลีมา เป็นมหาท่านลองเอาพระคาถาหลวงพ่อเปิ่นมาแปลเป็นไทยปรากฏว่าบางคาถา ไม่มีอะไร เป็นบทธรรมดาๆเท่านั้นแต่ถ้าไม่รู้คำแปลท่องเอาท่องเอาขนลุกขึ้นมาทันทีเพราะแรงครู หรือแรงศรัทธา นี้แหละดังนั้นคาถา อะปะจะคะ เราจำใส่เกล้าใส่กระหม่อมไว้ว่าเป็นคาถาหลวงปู่ประทานมาก็แล้วกันถ้าศรัมธาท่านลองท่องตามแบบที่ผมคัดมา"อะปะจะคะ ปะจะคะอะ จะคะอะปะ คะอะปะจะ"จากนั้นขอพรหลวงพ่อเฒ่าปั้นตามความประสงค์รับรองว่าถ้าไม่เกินกรรม จะสำเร็จผลทุกประการครับ หลวงปู่เฒ่าปั้น ท่านเก่งแต่ทางคงกระพันหรือ ....มักจะมีคนสอบถามเรื่องนี้ตลอดเวลาว่าพ่อเฒ่าปั้นท่านเก่งแต่ทางคงกระพันหรือไรเพราะที่ไหนๆก็บอกว่า พระหลวงปู่เฒ่าปั้น คงกระพันสุดยอดขนาดเสากุฏิพ่อเฒ่าปั้นที่ปัจจุปันนี้มีการรื้อถอนกุฏิไปแล้วเพราะชำรุดเสียหายไม่สามารถซ่อมแซมได้แต่ยังมีเสาอีกหนึ่งเสาที่ไม่สามารถขุดได้เคยมีคนเอาปืนยิงใส่ปืนไม่ทำงานแม้แต่นัดเดียวกิตติคุณด้านคงกระพันของท่านจึงเป็นที่รู้จักกันทั่วไปผู้คนที่ไม่รู้จักท่านจึงเชื่อว่าพระของหลวงพ่อเฒ่าปั้น คงกระพันโดยเฉพาะสิ่งที่ท่านทำแจกสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่คือผ้ายันต์แดง อะปะจะคะที่ปัจจุปัน ต้องฉีกแบ่งกันคนละตัวสองตัว นั้นแหละเหนียวสุดๆไม่รวมตระกรุด ที่ยังหาของจริงยากคนจึงเชื่อเช่นนั้นแต่วันนี้ผมได้รับบารมีท่านมาแล้วจึงยืนยันว่าพ่อเฒ่าปั้นท่านเก่งทุกทางอยากได้อะไรให้ไปบนบานเอาถ้าประสบความสำเร็จแล้ว ต้องไปแก้บนถ้าไม่ไปแก้บนจะเจอกับลิงไปเข้าฝันทวงถ้ายังไม่แก้อีกอาจถึงแก่ชีวิตได้เพราะบริวารท่านไม่ยอมเดี่ยวจะมาเล่าเรื่องการบนบานกับรูปหล่อพ่อเฒ่าปั้นต่อไปไม่ใช่แค่ทางคงกระพันแน่ๆครับเพราะทางด้านบารมีก็สุดๆครับ....เคยชุบชีวิตเพื่อนผมที่ตายอยู่ในห้องดับจิตที่โรงพยาบาลฟื้นมาแล้วครับด้วยการใช้วัตถุมงคลของท่านทำพิธีเรียกวิญญาณ........
สุดยอดประสบการณ์ขอรายละเอียดแจ่มๆเพื่อบันทึกไว้ให้เป็นที่รับทราบโดยทั่วกันว่า นี้คือสุดยอดบารมีแห่ง หลวงปู่เฒ่าปั้น วัดคังคาวจากผู้มีประสบการณ์จริงสาธุ
ประสบการณ์ด้านการบนบานประสบการเรื่องสมัครงานเรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ชาวบ้านข้างวัดเรียนจบแล้วแต่ยังหางานทำไม่ได้ ต่อมาโรงงานใหญ่แห่งหนึ่งเปิดรับสมัครงาน มีคนสมัครเป็นร้อย แต่รับจริงไม่กี่คนด้วยความที่ เป็นคนต่างจังหวัด ไม่มีเส้นไม่มีสายแต่มีพ่อเฒ่าปั้นวัดคังคาวคิดได้เช่นนั้น ไม่รอช้าเดินทางไปกราบรูปหลวงปู่เฒ่าที่วัดคังคาวแล้วบนท่านขอให้โรงงานแห่งนี้รับไว้ทำงานด้วยหลังจากนั้นไม่นานผลการคัดเลือกของโรงงานดังกล่าวออกมาปรากฏว่ามีชื่อบุคคลคนนั้นอยู่ด้วยและทางโรงงานก็เรียกตัวเข้าทำงานเรื่องนี้มีบันทึกไว้แล้วมีตัวตนจริงแต่ขอยกมาเป็นตัวอย่างว่าแม้กระทั้งการเปิดทางด้วยบารมีของพ่อเฒ่าปั้นท่านยังเปิดทางให้ได้ แม้จะเป็นเรื่องการสมัครงานท่านใดหางานทำอยู่ ต้องลองดูนะครับ
รับประกันความแท้ตลอดอายุการใช้งาน เก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน
ชื่อบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาบิ๊กซี หาดใหญ่
เลขที่บัญชี 636-2-02447-0 ออมทรัพย์
ค่าจัดส่ง EMS ซองกันกระแทก ๑๐๐ บาท
กรุณาโอนเงินเป็นเศษสตางค์เท่านั้น เช่น ๑๒๐๐.๔๔ บาท ๙๐๐.๑๒ บาท
เบอร์โทร:0874745190
หลวงพ่อเฒ่า (ปั้น) เนื้อแดง ปี ๒๕๔๙
หน้าที่เข้าชม | 57,413 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 47,283 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 เม.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 11 ก.ย. 2568 |