คตปลวก (ของทนสิทธิ์) ดีทางคงกระพัน ป้องกันภยันอันตรายต่าง ๆ
ในกระบวนเครื่องรางของขลังนั้น พระเกจิอาจารย์ได้สร้างกันในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสัตว์และเครื่องหมายต่าง ๆ ส่วนฉบับนี้ผู้เขียนจะมาว่าถึงของดีตามธรรมชาติบ้าง เพราะของเหล่านี้ไม่ค่อยแพร่หลายนัก หากแต่อยู่ในวงแคบและรู้จักกันน้อย ซึ่งจำพวกคดนี้ได้แก่ของที่เกิดจากตามธรรมชาติ แต่เมื่อเจริญเต็มที่แล้วกลับผิดธรรมชาติออกไป หรือแทนที่จะเป็นของธรรมดากลับกลายสภาพไปเป็นหิน หรือเป็นทองแดง หรือเป็นอย่างอื่นที่มีดังจะกล่าวต่อไปนี้
คด คืออะไร ท่านผู้อ่านคงจะไม่รู้จักหรือแปลกใจกับเครื่องรางของขลังและเป็นของศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งซึ่งนับถือกันว่าเป็นของดีทางคงกระพันและป้องกันอันตรายอย่างเดียวกันกับเครื่องรางของขลังทั่วไปที่เคยกล่าวมาแล้ว และถ้าได้นำเอามาลงอักขระเลขยันต์และพุทธาภิเษกแล้วก็จักยิ่งทวีความขลังประสิทธิ์ยิ่งขึ้นด้วย
คำว่า “คด” โดยความหมายธรรมดาแล้วหมายถึง คดเคี้ยวไม่ตรงหรืองอ อย่างนี้เป็นต้น แต่ตามความหมายของนักนิยมสะสมเครื่องรางของขลังนั้น เขาหมายถึงสิ่งที่ผิดปกติไปจากธรรมชาติเดิมของมัน เช่น เม็ดขนุนธรรมดาแล้วจะมีลักษณะแข็งตามธรรมชาติซึ่งจะเอาของแข็งทุบก็แตก หรือต้มก็ยุ่ยแต่บางครั้งเม็ดขนุนนั้นไม่เป็นไป ตามธรรมดา กลับแข็งเป็นหินหรือกลายเป็นทองแดงคล้ำไปซึ่งทุบไม่แตก เผาไม่เป็นไร ลักษณะคล้ายโลหะ ซึ่งเป็นการผิดธรรมชาติ
นอกจากนี้แล้วบางทีไปเจอจอมปลวกกลางป่าหรือในไร่เอาปืนไปยิงแต่ไม่ออก เขาก็ทะลวงขุดดูตรงใจกลางรังปลวกจะมีก้อนสีดำ ๆ อยู่ก้อนหนึ่งแข็งมาก เขาก็เรียกว่า “คดปลวก” อย่างนี้เป็นต้น
การเสาะแสวงหาคดโดยมาแล้วจะหากันไม่ค่อยได้เพราะของอย่างนี้มีน้อย และมีในบางที่บางแห่ง แล้วแต่เป็นโชคของใคร ใครก็ได้ไว้ จึงมีคำแนะนำจากคนรุ่นอาวุโสเก่าแก่ว่า เวลากินผลไม้หรือไปในที่ใดที่ผิดสังเกตกว่าที่อื่น เช่น จอมปลวกที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หรือโค่นก่อไผ่ที่ตายพรายก็คือ ยืนแห้งตาย หรืออย่างอื่น ๆ หรือไข่ไก่ที่แข็งเป็นหินตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ไก่ ที่เรียกกันว่าไข่หินก็ได้ จะเรียกว่าอะไรก็ตามที่มันผิดธรรมชาติให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็น คด ก็ได้
หลักสภาวะของชีวิต : ปฏิจจสมุปบาท หลักสภาวะหลุดพ้นชีวิต
•เพราะความไม่รู้การเกิดเป็นร่างกายตัวตนจิตใจดับ[อวิชชา] การปรุงแต่งเกิดขึ้นของความคิด ความรู้สึกจึงดับ [สังขาร]
•เพราะการปรุงแต่งเกิดขึ้นของความคิด ความรู้สึกดับ [สังขาร] การรับรู้สิ่งต่างๆจึงดับ [วิญญาณ]
•เพราะการรับรู้สิ่งต่างๆดับ[วิญญาณ] ร่างกายตัวตนจิตใจจึงดับ [นามรูป]
•เพราะร่างกายตัวตนจิตใจดับ[นามรูป] อวัยะต่างๆที่ใช้รับรู้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และสิ่งที่ยึดหน่วงจิตไว้ในโลก คือ รูป เสียง กลิ่น รส การรู้สัมผัสทางกาย ความรู้สึกนึกคิดทางใจจึงดับ [สฬายตนะ]
•เพราะอวัยะต่างๆที่ใช้รับรู้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และสิ่งที่ยึดหน่วงจิตไว้ในโลก คือ รูป เสียง กลิ่น รส การรู้สัมผัสทางกาย ความรู้สึกนึกคิดทางใจดับ [สฬายตนะ] สัมผัสตรวจกระทบรู้ทั้งหมดจึงดับ [ผัสสะ]
• เพราะสัมผัสตรวจกระทบรู้ทั้งหมดดับ[ผัสสะ] สภาพของใจจึงดับ [เวทนา]
•เพราะสภาพของใจดับ [เวทนา] สภาวะติดแน่นในความพึงใจและความใฝ่ที่ทำให้จิตใจยึดติดอยู่ในโลกและสรรพสิ่งของโลกจึงดับ [ตัณหา]
•เพราะสภาวะติดแน่นในความพึงใจและความใฝ่ที่ทำให้จิตใจยึดติดอยู่ในโลกและสรรพสิ่งของโลกดับ[ตัณหา] ความยึดถือในสิ่งต่างๆจึงดับ [อุปทาน]
•เพราะความยึดถือในสิ่งต่างๆดับ [อุปทาน] ภาวะชีวิตของสัตว์หรือโลกอันเป็นที่อยู่ของสัตว์จึงดับ [ภพ]
•เพราะภาวะชีวิตของสัตว์หรือโลกอันเป็นที่อยู่ของสัตว์ดับ [ภพ] ความเกิดจึงดับ [ชาติ]
•เพราะความเกิดดับ [ชาติ] ความเสื่อม ความแปรปรวน ความสิ้น ความโศก ความคร่ำครวญ ความทุกข์ โทมนัส ความขุ่นจึงดับ กองทุกข์ทั้งมวลนี้มีการดับด้วยอาการอย่างนี้
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
เมื่อใดแล ธรรมทั้งหลายปรากฏแก่ผู้แสวงหาทางหลุดพ้น
ผู้มีความเพียร เพ่งกระบวนการเกิดเป็นร่างกายตัวตนจิตใจ
เมื่อนั้น ผู้แสวงหาทางหลุดพ้น ย่อมกำจัดมารและเสนาเสียได้
ดุจพระอาทิตย์อุทัยขึ้นสาดส่องท้องฟ้าให้สว่างไสวฉะนั้นแล
โพธิกถา จบ. ที่มา พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค ผู้ทรงเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง พระองค์นั้น. มหาขันธกะ โพธิกถา ปฏิจจสมุปบาทมนสิการ - - ผู้เรียบเรียง รุ่งโรจน์(ปวโร ภิกฺขุ) 👹ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่ ปูชาพระไม่เกิดคุณ👺...วันเกิดนี้คุณได้ทำอะไรให้คนที่รักคุณยิ่งกว่าฟ้า และผืนดินแล้วหรือยัง รักแท้ยิ่งกว่าผู้อื่น คือรักแห่งมารดาบิดา❤
หน้าที่เข้าชม | 57,413 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 47,283 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 เม.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 11 ก.ย. 2568 |